แอ่วชมดอกทิวลิปบานที่ศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูง... ศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูงดอยผาหม่น ตั้งอยู่ที่ดอยผาหม่น อำเภอเทิง เป็นศูนย์ส่งเสริมการเพาะปลูกดอกไม้เมืองหนาว เช่น ดอกทิวลิป ดอกลิลลี่ ดอกซัลเวียสีแดง ต้นคริสต์มาสสีแดง หลากสีหลายพันธุ์ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวดอกไม้จะออกดอกสวยงามเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชม รอบบริเวณยังมีทิวทัศน์สวยงามดูแล้วสดชื่นท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงราย ไปตามทางหลวงหมายเลข 1020 สู่อำเภอเทิง แล้วไปตามทางหลวงหมายเลข 1155 อยู่ริมทางผ่านก่อนถึงภูชี้ฟ้า สำหรับรถโดยสารประจำทาง มีรถออกจากสถานีขนส่ง เวลา 13.00 น. ผ่านบ้านปางค่า ผ่านภูชี้ฟ้า ประมาณ 1013 กิโลเมตร ค่าโดยสารราคา 40 บาท ตลอดเส้นทางเป็นทางลาดยางตลอด หรือเช่ารถตู้จากตัวเมือง ราคา 1,500 บาท ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง
การจะเข้าชมดอกทิวลิปในช่วงฤดูหนาวที่ทางศูนย์จะเปิดให้เข้าชมประมาณเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคมของทุกปีหากท่า...[ More... ] |
|
แอ่วแม่สาย ตลาดท่าขี้เหล็ก ท่าขี้เหล็ก จังหวัดชายแดนของพม่า จำหน่ายสินค้านานาชนิด ประเภทอัญมณี พลอยสี ทับทิม หยก เครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพต่ำ ราคาถูกจากประเทศจีน อาหารทะเลแห้ง เหล้า บุหรี่ (ซึ่งมักเป็นของปลอม) เมื่อข้ามมาฝั่งท่าขี้เหล็กจะมีรถสามล้อเชิญชวนให้นั่งรถไปท่องเที่ยวเจดีย์ชเวดากองจำลอง ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากชายแดนประ-มาณ 2 กม. ลักษณะเป็นเจดีย์สีทองแบบพม่า สร้างจำลองมาจากเจดีย์ชเวดากองที่เมืองย่างกุ้ง ราคา 50-80 บาท นอกจากนี้ยังมีมอเตอร์ไซค์รับจ้างพาไปยังจุดต่าง ๆ เช่นตลาดพลอย 20 บาท แต่ควรตกลงราคาก่อนว่าเป็นราคาเที่ยวเดียว หรือราคาเหมา อำเภอแม่สายอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงราย 61 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 110 เป็นอำเภอเหนือสุดของประเทศไทย ติดกับจังหวัดท่าขี้เหล็กของประเทศพม่า โดยมีแม่น้ำแม่สายเป็นพรมแดน มีสะพานเชื่อมเมืองทั้งสองเข้าด้วยกัน ทั้งชาวไทยและชาวพม่าเดินทางไปมาหาสู่ค้าขายกันโดยเสรี นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยม...[ More... ] | |
แอ่วดอยตุง เชียงราย อารยนครอายุกว่า 700 ปี มีมนต์เสน่ห์ล้ำลึกของวัฒนธรรมล้านนา กลมกลืนกันอยู่ในโอบล้อมของผืนป่า ที่เริ่มคืนความเขียวชะอุ่มภายหลังเกิดโครงการพัฒนาดอยตุงฯ กว่า 30 ปีที่ผ่านมาด้วยพระบารมีของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ชาวเขาและชาวพื้นราบในบริเวณรายรอบดอยตุง ยอดสูงสุดของดอยนางนอน พรมแดนไทย-พม่า ได้เปลี่ยนวิถีจากการปลูกและเสพฝิ่น ถางป่าตัดไม้ และทำไร่เลื่อนลอย หันมาทำเกษตร ปลูกพืชผักเมืองหนาว ทำไร่กาแฟและแมคคาเดเมีย สร้างผลงานเย็บปักถักทอที่เชื่อมต่อวัตถุดิบพื้นถิ่น และหัตถศิลป์พื้นเมืองสู่การใช้งานในชีวิตประจำวันแบบสากล ในขณะที่กลุ่มชน 30 ชาติพันธุ์ ยังคงอาศัยอยู่อย่างสงบ ตามไหล่เขาและบนดอยสูง แนบแน่นอยู่กับประเพณีดั้งเดิมของตน โดยไม่ถูกวัฒนธรรมเมืองกลืนกิน
วันนี้...ดอยตุงพร้อมต้อนรับผู้มาเยือนสู่วิถีชุมชนสัมมาชีพโอบล้อมของสวนป่าและอุทยานที่แวดล้อมด้วยไม้ดอกไม้ประดับอันงดงามเกิน...[ More... ] | |
แอ่วเหนือไปวัดร่องขุ่น วัดร่องขุ่นออกแบบและสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน ์ ศิลปินที่มีชื่อเสียงของไทย สร้างขึ้นด้วยแรงปณิธานที่มุ่งมั่น รังสรรค์งานศิลปะที่งดงามแปลกตาผสานวัฒนะธรรมล้านนาอย่างกลมกลืน ทั้งลวดลายปูนปั้นประดับกระจกและจิตรกรรรมฝาผนังขนาดใหญ่ ลักษณะเด่นของวัดคือ พระอุโบสถถูกแต่งด้วยลวดลายกระจกสีเงินแวววาวเป็นเชิงชั้นลดหลั่นกันไป หน้าบันประดับด้วยพญานาคมีงวงงาดูแปลกตาน่าสนใจมาก ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถเป็นฝีมือภาพเขียนของอาจารย์เอง การเดินทางใช้ถนนสายเชียงราย - กรุงเทพฯ ถ้ามาจากกรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่ วัดร่องขุ่นจะอยู่ก่อนถึงตัวเมืองเชียงราย 13 ก.ม ตรงหลัก ก.ม ที่ 816 ถนนพลหลโยธิน (หมายเลข 1 / A2 ) เลี้ยวเข้าไปประมาณ 100 เมตร จะมีป้ายบอกเป็นระยะๆ
| |
วนอุทยานภูชีฟ้า ประวัติ ภูชี้ฟ้า เป็นส่วนหนึ่งของเทือกดอยผาหม่น ที่เป็นพรมแดนไทย-ลาว ด้าน จ.เชียงราย-พะเยา ลักษณะเป็นหน้าผาหินตั้ง อยู่บนเส้นกั้นพรมแดนพอดี ในอดีต เป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของ พคท. ด้วยสภาพภูมิประเทศที่สูงชัน จึงเป็นฐานที่มั่นที่สำคัญ ชาวลาวและชาวไทย ในพื้นที่เรียกผาหินที่ชี้เหยียดตรงขึ้นไปบนฟ้าว่าภูฟ้า เมื่อปัญหาด้านความมั่นคงคลี่คลาย มีการตัดถนนขนานแนวชายแดน ไทย-ลาว จากบ้านผาตั้ง ภูชี้ฟ้า ไปถึง อ.เชียงคำ ภูชี้ฟ้าจึงเริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม บนยอดภูชี้ฟ้า เป็นจุดที่ยื่นจากแนวเขตพรมแดน จึงไม่สามารถระบุชัดได้ว่า อยู่ในเขตไทยหรือลาว แต่ทางขึ้นสู่ยอดภูชี้ฟ้านั้นอยู่ในเขตไทย เคยมีการปักธงชาติไทยบนปลายสุดของหน้าผา แต่ในวันถัดมา ทหารลาวก็จะนำธงลาวมาปักเคียงคู่กันด้วย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย จึงห้ามนักท่องเที่ยวพักแรมบนภูชี้ฟ้า
วนอุทยาน...[ More... ] | |
บ้านพักบนภูชี้ฟ้า เชียงราย สำหรับท่านที่ตั้งใจมาเที่ยวภูชี้ฟ้าเพื่อมาชมความงามตามธรรมชาติของทะเลหมอกที่ขึ้นชื่อสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นและแวะชมดอกทิวลิปหลากสีตระการตาที่ศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูงดอยผาหม่น และชมวิถีชีวิตของชาวเขา ก็คงจะต้องหาที่พักบนภูชี้ฟ้าเพื่อให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศของภูชี้ฟ้าจริง ๆ พร้อมกับตื่นแต่เช้าตรู่รับอรุณเพื่อชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่บนยอดภู เราขอแนะนำสำหรับทุกท่านที่มาเที่ยวภูชี้ฟ้าหากต้องการที่พัก มีทั้งราคาถูกพักแบบง่าย ๆ ราคาห้องละไม่กี่ร้อยบาทไม่มีอาหาร หรือพักแบบมีอาหารด้วยราคาก็จะเพิ่มขึ้นมาอีก หรือบ้านที่พักได้หลาย ๆ คน หรือเลือกที่จะนอนเต้นท์ และเอาเต้นท์มาหาพื้นที่กางเต้นท์เอง หรือพักแบบสบาย ๆ เป็นส่วนตัวมีบรรยากาศของธรรมชาติไม่มีเสียงดังรบกวนราคาอาจจะสูงขึ้นนิดหน่อย ที่พักบนภูชี้ฟ้าเดี๋ยวนี้จึงมีให้เลือกหลายแบบแล้วแต่จะเลือกก็เริ่มตระเวนขับรถหาที่พักเอา เริ่มตั้งแต่หน้าศูนย์เกษ...[ More... ] | |